ปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้ง ขนาด 105 มม. เอ็ม 618
ประวัติอาวุธยุทโธปกรณ์ในพิพิธภัณฑ์
ความเป็นมา : ปบค.ขนาด 105 มม.เอ็ม 618
ในปี พ.ศ.2518 พล.ต.สัมผัส พาสนยงภิญโญ ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการศูนย์การทหารปืนใหญ่ในขณะนั้น ได้มีแนวคิดในการวิจัยและพัฒนาปืนใหญ่ขนาด 105 มม.เพื่อใช้ใน ทบ. เพราะในขณะนั้น ทบ.ประสบปัญหาขาดแคลนอาวุธยุทโธปกรณ์ และกระสุนวัตถุระเบิดเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมีผลมาจากสหรัฐอเมริกาลดการช่วยเหลือทางด้านการทหาร และด้วยในขณะนั้นประเทศไทยกำลังถูกคุกคามจากผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และ กำลังทหารของเวียดนามเหนือ จึงจำเป็นต้องทำทุกวิถีทางเพื่อสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกองทัพ ท่านจึงได้ริเริ่มที่จะวิจัยและพัฒนา ปบค.ขนาด 105 มม.เอ็ม 618 ขึ้น และพัฒนาปรับปรุงจนได้รับการยอมรับจาก ทบ. ใช้เวลา 2 ปี 9 เดือน และ นำเข้าประจำการโดยใช้ชื่อว่า ปบค.ขนาด 105 มม.เอ็ม 618 เอ 2 ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับ ปบค.105 มม.ของสหรัฐ(ปบค.95 ขนาด 105 มม. เอ็ม 101)ที่มีอยู่เดิมได้ โดยสามารถทำการยิงด้วยกระสุนชนิดเดียวกัน (ก.ปบค. ขนาด 105 มม. เอ็ม 1)
คุณลักษณะจำเพาะ
| พลประจำปืน | 10 | นาย |
| น้ำหนัก | 2,235 | กิโลกรัม |
| ความยาว | 5.7 | เมตร |
| ความกว้าง | 2 | เมตร |
| ความสูง | 1.6 | เมตร |
สมรรถนะ
| ระยะถอย | 88 – 85 | เมตร |
| มุมยิงสูงสุด | 1,140 | มิลเลียม |
| มุมยิงต่ำสุด | -85 | มิลเลียม |
| หนึ่งรอบควงสูง | 13 | มิลเลียม |
| หนึ่งรอบควงส่ายแบบควงเกลียว | 16 | มิลเลียม |
| เขตส่ายซ้าย หรือ ขวา สุด | 400 | มิลเลียม |
| อัตราการยิงสูงสุด | 10 | นัด/นาที |
| อัตราการยิงต่อเนื่อง | 3 | นัด/นาที |
| ระยะยิง (กระสุนระเบิดแรงสูง มุมสูง – บจ. 7) | 11 | กิโลเมตร |