ปบค. 105 มม. เอ็ม 425
ประวัติอาวุธยุทโธปกรณ์ในพิพิธภัณฑ์
ความเป็นมา : ปืนใหญ่บากระสุนวิโค้งขนาด 105 มม. แบบ M 425
การวิจัยพัฒนาปืนใหญ่บากระสุนวิโค้งขนาด 105 มม. ระยะยิงไกล 14.5 กม. แบบ M 425 จากการที่ พล.อ.สัมผัสฯ ได้คำเนินการวิจัยและพัฒนาปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้งขนาด 105 มม. แบบ M 618 A 2 ได้เป็นผลสำเร็จและ ได้รับการรับรองมาตฐานกองทัพบกและเข้าประจำการในกองทัพบกได้แล้ว ทำให้ได้ทราบข้อมูลทางเทคนิคต่าง ๆ ในการสร้างปืนใหญ่ได้เป็นอย่างดี ท่านคิดอยู่เสมอว่าการวิจัยและพัฒนอาวุธต้องให้มีความทันสมัยและมีคุณภาพดียิ่งๆ ขึ้นไป จึงขอวิจัยและพัฒนาปืนใหญ่บากระสุนวิโค้งขนาด 105 มม. ขนาด 105 มม. ระยะยิงไกล 14.5 กม. แบบ M 425 เมื่อ มิ.ย.23 โดยมีวัตถุประสงค์ของการวิจัยคือเพื่อให้อาวุธชนิดนี้ก็เพื่อทดแทน ปบค.ชนาด 105 มม. แบบ M 101 , ปบค.ชนาด 105 มม. แบบ M 102 ของสหรัฐฯ และ ปบค.ชนาด 105 มม. แบบ M 618 A 2 ของ ศอว.ทบ. ซึ่งมีระยะยิงเทียง 10 กม. เท่านั้น และ เพื่อติดทั้งบนรถสายพานแบบ SELF- PROPELLED ARLLERY หรือปืนใหญ่อัตราจร ขนาด 105 มม. ที่มีระยะยิงไกล 14.5 – 147 กม. ทบ.ได้อนุมัติหลักการให้ดำเนินการวิจัยและพัฒนา เมื่อ มิ.ย. 23 และได้ดำเนินการทดลองยิงครั้งแรกเมื่อ ก.ย. 25 เป็นผลสำเร็จ เมื่อ 19 ม.ค. 26 ได้แสดงการยิงให้ ผบ.ทบ. ( พลเอกอาทิตย์ กำลังเอก ) และนายหหารชั้นผู้ใหญ่ชม ซึ่งปรากฏว่า ผบ.ทบ.มีความพึงพอใจและได้สั่งการให้ ศอว.ทบ. ดำเนินการสร้างเพื่อทดลองนำเข้าประจำการในปีงบประมาณ 2527 จำนวน 1 กองพัน (12 กระบอก) และได้ผลิตต่อเนื่องจนมีจำนวนทั้งสิ้น 47 กระบอก ปัจจุบันได้ถูกนำมาวิจัยและผลิตเป็นปืนใหญ่อัตตาจรจำนวน ๑๐ กระบอก ในส่วนที่เหลือกำหนดให้เป็นอาวุธสำรองสงคราม
คุณลักษณะจำเพาะ
| พลประจำปืน | 10 | นาย |
| น้ำหนัก | 3,153 | กิโลกรัม |
| ลำกล้องปืน | 105 | มิลลิเมตร |
| 37 | คาลิเบอร์ | |
| ความกว้างทั้งกระบอก (ท่าเตรียมเดิน) | 2.18 | เมตร |
| ความกว้างทั้งกระบอก (ท่าตั้งยิง) | 4.17 | เมตร |
| ความยาวทั้งกระบอก | 5.1 | เมตร |
| ความสูง | 1.7 | เมตร |
สมรรถนะ
| มุมยิงสูงสุด | 1,100 | มิลเลียม |
| มุมยิงต่ำสุด | -90 | มิลเลียม |
| เขตส่ายซ้ายสุด | 411 | มิลเลียม |
| เขตส่ายขวาสุด | 413 | มิลเลียม |
| อัตราการยิงสูงสุด | 10 | นัด/นาที |
| อัตราการยิงต่อเนื่อง | 3 | นัด/นาที |
| ระยะยิงไกลสุด | 1,4500 | เมตร |